สวัสดีจ้าทุกคน วันนี้วิ้งค์จะมาเล่าเรื่อง Verb หรือ คำกริยา ในภาษาอังกฤษให้เข้าใจกัน ต้องบอกเลยว่า Verb นั้นเป็นส่วนประกอบที่สำคัญมากสำหรับภาษา (ทุกภาษาเลยนะ) เพราะเวลาจะสื่อสาร ถ้าขาด Verb ไป ก็อาจจะสื่อสารได้ไม่เต็มที่ หรือเวลาแต่งประโยค ถ้าขาด Verb ไป (V. แท้) ในภาษาอังกฤษก็จะถือว่าประโยคนั้น “ไม่ใช่” ประโยคเลยทีเดียว

Verb คืออะไร?

Verb หรือคำกริยา เป็นคำที่ใช้บอกลักษณะของ “การกระทำ” (Actions) หรือบอก “สภาพ” (State) เช่น

  • run (วิ่ง)
  • drink (ดื่ม)
  • think (คิด)
  • hate (เกลียด)
  • complain (บ่น, ร้องเรียน)

ซึ่งในภาษาอังกฤษนั้น ประโยค (Sentence) จะถือว่าสมบูรณ์และเป็นประโยคได้ ก็ต่อเมื่อมี [Subject + Verb] คือต้องมีประธาน และกริยานั่นเอง แต่! ก็ไม่ใช่ Verb ทุกแบบจะทำหน้าที่เป็น Verb แท้ของประโยคได้นะ เราลองไปดูกันดีกว่า ว่า Verb มีกี่ประเภท หน้าตาเป็นยังไงบ้าง?

Verb ในภาษาอังกฤษ มีกี่ประเภท?

การแบ่งประเภทของ Verb นั้นแบ่งได้หลายแง่มุมมาก ดังนั้นวิ้งค์เลยสรุปเป็นแผนภาพไว้ให้ดูง่าย ๆ ตามด้านล่างเลย

แผนภาพสรุปประเภทของ Verb (กริยา) ในภาษาอังกฤษ

สรุปประเภทของ Verb (กริยา) ภาษาอังกฤษ

  1. Finite Verbs (กริยาแท้ — ผันได้ตาม Tense)
  2. Non-Finite Verbs (กริยาไม่แท้ — ไม่ผันตาม Tense)
  3. Linking Verbs (กริยาที่เชื่อม S. กับ Adj. เข้าด้วยกันเพื่อบอกสภาพ ลักษณะ)
  4. Helping/Auxiliary Verbs (กริยาช่วย ต้องมาคู่กับกริยาแท้เสมอ)

ถ้าสรุปแบบสั้น ๆ Verbs ก็จะแบ่งได้เป็น 4 ประเภทใหญ่ ๆ ตามด้านบนเลย แต่เดี๋ยวก่อน! อย่างที่วิ้งค์บอกไว้ตอนแรกว่ามันมีการมอง Verb หลายแง่มุม เพราะงั้นเดี๋ยววิ้งค์จะอธิบายเพิ่มรายละเอียดแต่ละแบบให้ฟังนะจ๊ะ แต่ขอให้เก็ทกันก่อนว่าถ้าแบ่งตามประเภทจริง ๆ ก็จะมี 4 แบบจ้า

ลองมาดูรายละเอียด Verb แต่ละแบบกัน (บอกเลยตั้งสตินะจ๊ะ ไม่งั้นจะงงแน่นวล😁)

1. Finite Verbs (กริยาแท้ — ผันได้ตาม Tense)

กลุ่มนี้จะถือว่าเป็น Verb หลักของประโยค (Main Verb) คำว่า Verb หลัก ก็จะหมายถึงขาดไม่ได้ และถือว่าเป็น V. แท้ ที่จะต้องผันตาม Tense ด้วยนะ ถ้าลองแบ่งตามมุมมองแล้ว จะแบ่งได้ตามนี้เลย

🍙 ดูที่การผัน Verb

  • Regular Verb (ผันปกติโดยการเติม ed)
  • Irregular Verb (ผันแบบไม่ปกติ เช่น eat-ate-eaten)

🍙 ดูที่ลักษณะของ Verb

  • Action Verb (เห็นภาพว่าเคลื่อนไหว เช่น กิน วิ่ง เดิน)
  • Stative Verb (บอกสภาพเช่น รัก เกลียด เชื่อ)

🍙 ดูที่โครงสร้าง

  • Transitive Verb (ต้องมี O. ไม่งั้นความหมายไม่สมบูรณ์)
  • Intransitive Verb (ไม่ต้องมี O. ความหมายก็สมบูรณ์ในตัวได้)

🍙 Verb ที่มาเป็นกลุ่ม

  • Phrasal Verb (กริยาวลี — ก็คือมาที่เป็นกลุ่ม ไม่ได้มาคำเดี่ยว ๆ)

🍙 กลุ่ม BE/DO/HAVE

*กลุ่มนี้เป็นได้ทั้งกริยาแท้ และไม่แท้เลยล่ะ

  • Verb to BE (is, am, are, was, were, being, been)
  • Verb to DO (do, does, did, doing, done)
  • Verb to HAVE (has, have, had)

2. กลุ่ม Non-Finite Verbs (กริยาไม่แท้ — ไม่ผันตาม Tense)

กลุ่มนี้ถึงรูปร่างหน้าตาจะคล้ายหรือเหมือนกับ V. แท้บางแบบ แต่! จะไม่ได้ทำหน้าที่เป็น V. แท้ และไม่ผันตาม Tense ใด ๆ

  • To-Infinitive Verbs (ขึ้นต้นด้วย to)
  • Gerund (อยู่ในรูป V.ing ทำหน้าที่เป็น N.)
  • Present-Past Participles (ขึ้นด้วย V.ing หรือ V.3)

❗ Gerund กับ Present Participle หรือ V.ing นั้นต้องระวังมาก ๆ เพราะถ้ามันมาคู่กับ V. to BE แล้วละก็ นั่นหมายความว่า มันกำลังทำหน้าที่เป็น V. แท้ทั้งก้อน เช่น She is working. ไม่ได้เป็น Gerund หรือ Present Participle นะ (ไว้จะอธิบายละเอียด แยกอีกโพสต์นะจ๊ะ)


3. กลุ่ม Linking Verbs

ไม่ได้ทำหน้าที่ V. จริง ๆ แต่เป็นตัวเชื่อมระหว่าง S. กับ Adj. แทน

  • Verb to BE (is, am, are, was, were, being, been)
  • Linking Verbs อื่น ๆ (เช่น seem, appear, become, smell, feel, sound เป็นต้น)

4. กลุ่ม Helping/Auxiliary Verbs

กลุ่มนี้เป็น V. ช่วยที่จะอยู่เดี่ยว ๆ ไม่ได้ แต่ต้องมาพร้อมกับ V. แท้เสมอ

  • Verb to BE (is, am, are, was, were, being, been)
  • Verb to DO (do, does, did)
  • Verb to HAVE (has, have, had)
  • Modal Verbs (can, could, will, would, may, might, shall, should, must)

มาถึงตรงนี้ เชื่อว่าหลายคนคงจะแบบ “พักก่อนนน” เอาเป็นว่าโพสต์นี้ ขอให้รู้จักประเภท และการแบ่งรูปแบบ Verbs ในภาษาอังกฤษกันแบบกรุบกริบก่อนนะจ๊ะ เดี๋ยววิ้งค์จะทยอยมาอธิบายเพิ่มเติมว่าแต่ละแบบนั้นดูยังไง ใช้ยังไงบ้าง แล้วจะมาแจก link ให้อีกที 😉


*หากต้องการนำบทความไปแชร์ หรือเผยแพร่ อนุญาตให้เฉพาะแชร์ Link จากเว็บไปโดยตรงเท่านั้นน้า*
All rights reserved. © 2021 engawink.com