Present Simple Tense คืออะไร?

อธิบายง่ายๆ ก็คือ tense ที่ใช้กับเหตุการณ์ที่เกิดในปัจจุบัน เกิดประจำ หรือเป็นข้อเท็จจริง (Fact)
Present Simple เป็น tense พื้นฐานอันแรกเลยที่เราต้องเจอเวลาเรียนภาษาอังกฤษ แต่เชื่อมั้ย? หลายคนยังมึน และงงกับการใช้ tense นี้อยู่เลย! โพสต์นี้วิ้งค์จะมาอธิบายแบบง่ายๆ พร้อมตัวอย่างให้ดูกัน ไปโลดดดด!

Tense คืออะไร?

ก่อนอื่นต้องเข้าใจก่อนว่า Tense เป็นแกรมมาร์ที่ต้องใช้กับ Verb เท่านั้น– เพราะอะไร?
เพราะ Tense เป็นโครงสร้างการใช้ Verb ที่ต่างกันไป ตามเวลาที่การกระทำเกิดขึ้น (เพราะงั้นมันเลยมาพร้อมกับเรื่อง Verb ที่เป็นตัวบอก action บอกกการกระทำไงล่ะ!) ซึ่งจริงๆ แล้ว Tense จะมีทั้งหมด 12 แบบ แต่บทความนี้วิ้งค์ขอพูดถึง Present Simple ที่เป็น Tense พื้นฐาน ที่ง่ายสุด และใช้บ่อยสุดกันก่อนเลย

โครงสร้าง Present Simple Tense

S. + V. (เติม s, es) + [O.]

S. (Subject) = ประธานของประโยค

V. (Verb) = กริยาแท้ของประโยค (ต้องเป็น V. แท้เท่านั้นนะ! ถึงจะผันตาม Tense ได้)

O. (Object) = กรรม (บาง V. ต้องมี O. ตามเสมอ แต่บาง V. ไม่ต้องมีก็ได้ เพราะงั้นเจ้า O. เลยอาจจะมีหรือไม่มีก็ได้)

🌻จุดที่เป็นตัวบอกว่านี่คือ Present Simple ก็คือการ “เติม s, es” ที่ V. นั่นเอง ซึ่งเป็นจุดที่ทำให้เรางงกันด้วย เดี๋ยววิ้งค์จะให้ดูตัวอย่างก่อน แล้วจะอธิบายเพิ่มเติมนะ

ตัวอย่างประโยค Present Simple

▪ A boy walks to school every morning.
(เด็กชายเดินไปโรงเรียนทุกวัน) = กิจวัตร เกิดประจำ

▪ Tim and Tom love hamburgers.
(ทิมและทอมชอบแฮมเบอเกอร์) = ข้อเท็จจริง

▪ He brushes his teeth before going to bed.
(เขาแปรงฟันก่อนเข้านอน) = เกิดประจำ

การเติม s, es ที่ V. ใน Present Simple

บางคนอาจจะสังเกตได้จากในตัวอย่างแล้ว มาดูสรุปกันว่าเมื่อไรเติม ไม่เติม

S. เอกพจน์/นับไม่ได้V. เติม s, es
S. พหูพจน์ (+I, You)V. ไม่เติม
  • ถ้าประธานมาเดี่ยว (เป็นเอกพจน์) = เติม s, es ที่ V.
  • ถ้าประธานมากกว่าหนึ่ง (เป็นพหูพจน์) = ไม่ต้องเติม
  • ถ้าประธานเป็นนามนับไม่ได้ (Uncountable N.) = ให้ถือว่าเป็นเอกพจน์ ต้องเติม s, es ที่ V.
  • I, You เป็นข้อยกเว้น มาเดี่ยว แต่ V. ไม่ต้องเติมนะ❗

เมื่อไรเติม s หรือ es? (ใน Present Simple)

V. ทั่วไปเติม s
V. ลงท้ายด้วย sh, ch, x, ss, zzเติม es
V. ลงท้ายเป็น พยัญชนะ + yเปลี่ยน y > i แล้วเติม es
V. ลงท้าย สระ + yเติม s
  • V. ทั่วไปส่วนมากเติม s ได้เลย (ย้ำว่าเฉพาะใน Present Simple นะ ถ้าเป็น Tense อื่นๆ จะไม่มีการเติม s, es)
  • V. ที่ลงท้ายด้วย sh, ch, x, ss, zz = เติมเป็น es เช่น watches, brushes, misses, mixes, buzzes
  • V. ที่ลงท้ายเป็น พยัญชนะ + y = เปลี่ยน y เป็น i ก่อน แล้วค่อยเติม es เช่น fly > flies, study > studies
  • V. ที่ลงท้ายเป็น สระ + y = เติม s ได้เลย เช่น pays, enjoys

ส่วนการใช้ V. to BE, DO, HAVE จะใช้ตามด้านล่างนี้เลย

SubjectBEDOHAVE
เอกพจน์/นับไม่ได้isdoeshas
พหูพจน์, Youaredohave
Iamdohave

ตัวอย่าง

▪ The sand is clean and hot. (ทรายสะอาดและร้อน)
*sand = นามนับไม่ได้

▪ She does her homework at night. (เธอทำการบ้านตอนกลางคืน)

▪ They do housework on weekends. (พวกเขาทำงานบ้านช่วงสุดสัปดาห์)

▪ I have two brothers. (ฉันมีพี่ชายสองคน)

จุดที่คนสับสนเวลาใช้ Present Simple

หลายคนจะงง เพราะส่วนมากเราจะได้เรียน Noun กันมาก่อน แล้วก็จะท่องมาว่า “เอกพจน์ไม่เติม s, es — พหูพจน์เติม s, es”

หลายคนเลยจำมาใช้กับเรื่อง Present Simple Tense ซะงั้น!! ก็จะงงๆ เพราะมันจะขัดกันเอง ทำให้สรุปไม่เก็ทว่าเติมหรือไม่เติมกันแน่นะ (เหมือนเอาสองเรื่องมาปนกัน ก็เลยงงแล้วไม่เข้าใจนั่นเอง) ลองดูสรุปตารางด้านล่างเลย

การเติม s, es ใน N. และ V.

ประเภทเอกพจน์/นับไม่ได้พหูพจน์
Nounไม่เติมเติม
Verb (ใน Present Simple)เติมไม่เติม

หวังว่าจะเข้าใจกันมากขึ้นน้า แล้วไว้คราวหน้าวิ้งค์จะมาเล่า Tense อื่นๆ ให้ฟังอีกนะ